Q10 สูตรต้นแบบที่ใช้ในงานวิจัย Q-Symbio – 100 มก.
- สูตรพิเศษเฉพาะ ที่ผ่านการทดสอบว่าสามารถดูดซึมได้สูง
- ผ่านการใช้โดยผู้บริโภคมากว่า 20 ปี ยืนยันถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย
- ใช้ในการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ มากกว่า 90 งานวิจัย
- เป็นผลิตภัณฑ์อ้างอิงโดยสมาคมโคเอ็นไซม์Q10นานาชาติ (ICQA)
- Bio-Quinone Q10 ประกอบด้วย Q10 ละลายในน้ำมันพืช บรรจุในแคปซูลเจลาตินชนิดนิ่มที่ป้องกันแสง
- ผลิตภายใต้มาตรฐานการผลิตยาประเทศเดนมาร์ก
- ข้อมูลผลิตภัณฑ์
- คุณภาพของQ10
- Q10 คืออะไร
- Q-Symbio
- ถาม-ตอบ
1 แคปซูล ประกอบด้วย | |||
---|---|---|---|
โคเอ็นไซม์ Q10 (ยูบิควิโนน) | 100 มิลลิกรัม | ||
ละลายในน้ำมันถั่วเหลือง |
Product Facts
วิธีรับประทาน
รับประทานวันละ 1-2 แคปซูลต่อวัน หรือ ตามแพทย์สั่ง
ไม่ควรใช้เกินปริมาณที่กำหนด
ไม่ควรเคี้ยวเม็ดแคปซูล ควรกลืนทั้งเม็ด ควรรับประทานพร้อมอาหาร
ปราศจาก ยีสต์ กลูเต็น และน้ำตาล
ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ
ไม่ควรรับประทานอาหารเสริมทดแทนอาหารหลัก
ส่วนประกอบ
สารเพิ่มปริมาณ: น้ำมันถั่วเหลือง
เปลือกแคปซูล: เจลาติน
โคเอ็นไซม์Q10
สารให้ความชุ่มชื้น: กลีเซอรอล, น้ำ
สารต้านอนุมูลอิสระ : วิตามินอี
สารแต่งสี : ไอรอน ออกไซด์
การเก็บรักษา
เก็บที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส ให้พ้นจากแสงแดด
เก็บให้พ้นมือเด็ก
ไบโอ-ควิโนนQ10 คือ อะไร
ไบโอ-ควิโนนQ10 ประกอบไปด้วยสารออกฤทธิ์สำคัญคือโคเอ็นไซม์Q10ขนาด100มิลลิกรัมละลายในน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุในเม็ดเจลาตินแคปซูลชนิดนิ่ม
Q10เป็นสารที่ไวต่อการโดนทำลายโดยแสงแดดและออกซิเจน น้ำมันที่ใช้ในไบโอ-ควิโนนQ10 ได้รับการกำจัดเอาออกซิเจนออกไปแล้วด้วยเทคนิคพิเศษ เม็ดแคปซูลสามารถปกป้องสารสำคัญภายเม็ดแคปซูลจากการทำลายโดยแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลิตภัณฑ์นี้เป็นผลิตภัณฑ์Q10ที่ขายดีที่สุดยี่ห้อหนึ่งของโลกมาเป็นเวลาหลายสิบปี เนื่องจากมันผ่านการพิสูจน์และบันทึกเป็นข้อมูลหลักฐานถึงประสิทธิภาพของการดูดซึมที่สูง
เกี่ยวกับ ไบโอ-ควิโนน Q10
- ไบโอ-ควิโนนQ10 ประกอบด้วยQ10ละลายในน้ำมันพืช บรรจุอยู่ในแคปซูลเจลาตินชนิดนิ่มที่ป้องกันแสง
- เป็นสูตรที่ได้รับการศึกษาบันทึกถึงประสิทธิภาพของการดูดซึมที่สูง
- ไบโอ-ควินโนนQ10 เป็นสูตรผลิตภัณฑ์อ้างอิง โดยสมาคมโคเอ็นไซม์Q10นานาชาติ(ICQA)
- วัตถุดิบQ10ที่ใช้ในไบโอ-ควิโนนQ10 เป็นQ10แบบเดียวกันกับที่สร้างได้ตามธรรมชาติของร่างกาย
- รูปแบบของQ10ที่ใช้ในไบโอ-ควินโนนQ10 เป็นแบบ trans ทั้งหมดซึ่งเป็นรูปแบบธรรมชาติ ปราศจากการสังเคราะห์ที่เป็นรูปแบบ cis-isomers
- ส่วนผสมน้ำมันพืชสูตรเฉพาะจากการเกษตรแบบยั่งยืน บรรจุในแคปซูลเจลาติน
- ไบโอ-ควิโนนQ10 ได้ใช้ในงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์แล้วมากกว่า 90 งานวิจัย
- ผลิตภายใต้มาตรฐานการผลิตยา
วิจัยและพัฒนาเพื่อให้สมบูรณ์ที่สุดถึง25ปี
Pharma Nord ใช้เวลากว่า 25 ปีในการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพ Bio-Quinone Q10 เพื่อวัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียวคือการผลิตผลิตภัณฑ์ Q10 ที่สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ถึงความสามารถในการดูดซึมและคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความพยายามเหล่านี้ทำให้ Bio-Quinone Q10 เป็นแบรนด์ที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดในยุโรปและเป็นสูตร Q10 ที่ใช้ในการวิจัยในระดับนานาชาติ และได้รับการแนะนำโดยสมาคมโคเอ็นไซม์Q10นานาชาติ หรือ International Coenzyme Q10 Association (ICQA)
สูตรน้ำมันที่เหมาะสมที่สุด
จากการศึกษาวิจัยทางคลินิกหลายชิ้นได้แสดงให้เห็นว่า ด้วยส่วนผสมของBio-Quinone ซึ่งประกอบด้วย Q10ที่ละลายในน้ำมันพืช และผลิตเป็นแคปซูลเจลาตินชนิดนิ่ม ในภาวะที่ได้รับการปกป้องจากแสง ทำให้มีประสิทธิภาพการดูดซึมที่สูงกว่าสูตรอื่นๆ (Ref.1)
สูตรน้ำมันของBio-Quinone Q10 ให้ประสิทธิภาพการดูดซึมสูงสุดเมื่อเทียบกับสูตรอื่นๆ
- Ref. 1. Weis M, et al. Bioavailability of Four Oral Coenzyme Q10 Formulations in Healthy Volunteers. Mol Aspect Med 199415s,273-80.
ดูดซึมได้สูงที่อุณหภูมิของร่างกาย
Q10 เป็นสารที่ละลายในไขมันทำให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ยาก อย่างไรก็ตามเนื่องจากกระบวนการผลิตที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ ที่Q10ถูกละลายในน้ำมันพืชและเข้าสู่กระบวนการผ่านความร้อนซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ทำให้ผลึกของQ10ละลายและมีขนาดเล็กลงเป็นโมเลกุลเดี่ยวๆที่อุณหภูมิปกติของร่างกาย ด้วยกระบวนการผ่านความร้อนที่มีลักษณะเฉพาะแบบนี้ที่ทำให้ผลึกของQ10ละลายได้อย่างสมบูรณ์จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ Bio-Quinone Q10มีประสิทธิภาพการดูดซึมของสารออกฤทธิ์ได้สูงสุด
- Ref. 2. Singh RB, et al. Effects on absorption and oxidative stress of different oral Coenzyme Q10 dosages and intake strategy in healthy men. Biofactors 2005;25(1-4):219-24.
ขนาดและวิธีการรับประทาน
ไม่ใช่แค่สูตรของผลิตภัณฑ์เท่านั้นที่มีผลต่อปริมาณของQ10ที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับขนาดของยาและช่วงเวลาของการรับประทาน
ข้อมูลจากการศึกษาในมนุษย์ทั้งหมด 7 การศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าถ้าคุณรับประทานQ10ที่ขนาด100มิลลิกรัม วันละสองครั้ง ร่างกายจะสามารถดูดซึมได้ดีกว่าการรับประทานแบบ 200มิลลิกรัมในครั้งเดียว
วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงสุด
Bio-Quinone Q10 ประกอบด้วยQ10จากธรรมชาติ 100% วัตถุดิบที่ใช้ผลิตโดยเซลล์ยีสต์ชนิดพิเศษและเป็นQ10เหมือนกันกับที่ผลิตได้โดยร่างกาย ซึ่งจะแตกต่างกับQ10ที่ได้จากการผลิตโดยใช้การหมักด้วยแบคทีเรีย Q10ที่ได้จาการหมักยีสต์นี้ไม่มีส่วนผสมของยีสต์หรือสิ่งปนเปื้อนที่ไม่ทราบแน่ชัด นอกจากนี้วัตถุดิบQ10ยังปราศจากรูปแบบcis-isomer ที่เป็นอันตรายซึ่งมักพบในวัตถุดิบQ10ที่ได้จากการสังเคราะห์ที่มีคุณภาพต่ำซึ่งโดยปกติจะผลิตจากของเสียจากการผลิตยาสูบ
วัตถุดิบทั้งหมดที่ใช้ใน Bio-Quinone Q10 ได้รับการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดก่อนการผลิตในแต่ละรุ่นการผลิต
คุณภาพการผลิตยา
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั้งหมดของ Pharma Nord นอกจากจะมีการผลิตตามมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) และ Critical Control Points (HACCP)แล้วนั้น ยังผลิตตามแนวทางของการผลิตยารักษาโรค การผลิตทั้งหมดของ Pharma Nord เป็นไปตามกฎคุณภาพที่เข้มงวดซึ่งเป็นไปตามแผนของมาตรฐานเหล่านี้
ทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิตเกิดขึ้นภายใต้การควบคุมคุณภาพอย่างเต็มรูปแบบทุกอย่างตั้งแต่การผสมวัตถุดิบและการบรรจุสินค้าสำเร็จรูปเพื่อการขนส่ง สินค้าจะได้รับการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่าสามารถควบคุมคุณภาพของแต่ละแคปซูลได้เต็มที่จนกว่าผลิตภัณฑ์จะถึงมือผู้บริโภค
สารที่มีความปลอดภัยมาก
โคเอ็นไซม์Q10เป็นสารที่มีความปลอดภัยสูงมาก ยังไม่มีรายงานอาการที่ไม่พึงประสงค์ร้ายแรงใด ๆ จากการรับประทานในการศึกษาแบบควบคุม แม้การรับประทานในปริมาณ 1200มิลลิกรัมต่อวันเป็นเวลาหนึ่งปี (Ref.3) นอกจากนี้จากการศึกษาวิจัยและประสบการณ์ของผู้บริโภคมากกว่า 20 ปียังเป็นสิ่งสนับสนุนยืนยันถึงความปลอดภัยของ Bio-Quinone Q10
หลังจากหยุดรับประทาน ระดับของQ10ในร่างกายก็จะกลับมาสู่ระดับเดียวก่อนการรับประทานเสริม สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการรับประทานเสริม Q10 ไม่ส่งผลกระทบต่อความสามารถของร่างกายในการสร้างสารนี้
Pharma Nord มีข้อมูลด้านความปลอดภัยฉบับสมบูรณ์ของ Bio-Quinone และรายงานการศึกษาทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 100 ฉบับ
- Ref 3. Horstink MW, et al. The effect of coenzyme Q10 therapy in Parkinson disease could be symptomatic. Arch Neurol 2003;60(8):1170-72.
หนึ่งในผลิตภัณฑ์Q10ที่มีหลักฐานทางวิทยาศสาสตร์มากที่สุด
Many people use coenzyme Q10 daily, but are perhaps not aware that there can be large differences in the products.
If you are in doubt whether you use the right product, you can try to test your current Q10 product against Bio-Quinone Q10, The world's most widespread Q10 brand:
Bio-Quinone Q10 |
Q10ที่ฉัน รับประทานอยู่ |
|||
---|---|---|---|---|
ประสบการณ์ใช้จริงของผู้บริโภคในยุโรปมากกว่า 20 ปี | ใช่ | ? | ||
มีหลักฐานการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการดูดซึม | ใช่ | ? | ||
มีข้อมูลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ด้านความปลอดภัย | ใช่ | ? | ||
มีข้อมูลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับประสิทธิผล | ใช่ | ? | ||
เป็นผลิตภัณฑ์Q10อ้างอิงที่ใช้ในการวิจัยระดับนานาชาติ | ใช่ | ? | ||
ผลิตในประเทศเดนมาร์กภายใต้มาตรฐาน GMP | ใช่ | ? | ||
เป็น Q10 รูปแบบเดียวกับธรรมชาติ-เช่นเดียวกับที่ร่างกายใช้งาน | ใช่ | ? | ||
ผ่านการทดสอบและพิสูจน์ในการศึกษาวิจัยมากกว่า 90 ฉบับ | ใช่ | ? | ||
ผ่านการศึกษามาแล้วว่าผลิตภัณฑ์นี้ไม่ส่งผลกรทบต่อการสร้างQ10ของร่างกาย | ใช่ | ? | ||
รับประทานทุกวันโดยผู้บริโภคหลายพันคนในมากกว่า 40 ประเทศ | ใช่ | ? | ||
สูตรที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสารละลายในน้ำมันที่ผ่านกรรมวิธีให้ความร้อนทำให้ผลึกของQ10ละลายได้ในกระเพาะอาหารและสามารถดูดซึมได้ | ใช่ | ? |
Bio-Quinone Q10 เป็นผลิตภัณฑ์Q10แรกของสหภาพยุโรปและสามารถดูดซึมได้ง่าย ซึ่งช่วยในการผลิตพลังงานภายในเซลล์ของร่างกายจึงช่วยลดความอ่อนเพลียและความอิดโรย และมีส่วนช่วยให้หลอดเลือดมีสุขภาพดี
Bio-Quinone Q10 - เมื่อคุณต้องการจ่ายเงินเพิ่มอีกเล็กน้อยเพื่อคุณภาพและความปลอดภัย
References
1. Weis M, Mortensen SA, Rassing MR, Møller-Sonnergaard J et al.: Bioavailability of Four Oral Coenzyme Q10 Formulations in Healthy Volunteers; Mol Aspects Med 1994 15s, 273-280.
2. Singh RB; Niaz MA; Kumar A; Sindberg CD; Moesgaard S; Littarru GP:Eff ect on absorption and oxidative stress of diff erent oral Coenzyme Q10 dosages and intake strategy in healthy men.: Biofactors.: 25:1-4:219-24. (2005).
3. Horstink MW, van Engelen BG: The eff ect of coenzyme Q10 therapy in Parkinson disease could be symptomatic.; Arch Neurol 2003 60, no. 8, 1170-72
4. Langsjoen P, et al. Treatment of essential hypertension with coenzyme Q10. Mol Aspects Med. 1994;15 Suppl:S265-72.
5. Mortensen SA. Perspectives on therapy of cardiovascular diseases with coenzyme Q10 (ubiquinone). Clin Investig. 1993;71(8 Suppl):S116-23.
โคเอ็นไซม์Q10 (หรือเรียกสั้นๆว่าQ10)เป็นสารคล้ายวิตามิน เรียกอีกชื่อว่า ยูบิควิโนน(ubiquinone) ubi เป็นภาษาละติน แปลว่า ทุกหนแห่ง เมื่อเซลล์ต้องการใช้พลังงานมันจะเปลี่ยน ไขมัน, คาร์โบไฮเดรต,โปรตีน และ แอลกอฮอล์ ให้เป็นสารที่เรียกว่า ATP(adenosine triphosphate) ซึ่งเป็นสารเคมีที่ใช้เก็บพลังงาน โดยเซลล์จะทำการสลายและปลดปล่อยพลังงานออกมาเมื่อต้องการใช้ กระบวนการทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในเซลล์ภายในไมโตคอนเดรีย(mitochondria)ซึ่งมีรูปร่างคล้ายเมล็ดถั่ว
โคเอ็นไซม์Q10พบได้ในทุกๆไมโตคอนเดรีย เซลล์กล้ามเนื้อเป็นเซลล์ที่ต้องการพลังงานเป็นอย่างมากจึงทำให้พบไมโตคอนเดรียได้มากกว่าเซลล์อื่นๆ กล้ามเนื้อหัวใจเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของเนื้อเยื่อที่ประกอบไปด้วยเซลล์ที่มีไมโตคอนเดรียอยู่เป็นจำนวนมากและต้องใช้พลังงานเป็นจำนวนมาก
วัตถุดิบQ10เป็นสารที่ละลายในไขมัน ผลึกขนาดใหญ่ดูดซึมได้ไม่ดี แต่ด้วยการใช้กรรมวิธีและเทคนิคพิเศษโดยนำQ10มาผ่านความร้อนทำให้ผลึกของQ10สามารถละลายได้อย่างสมบูรณ์ที่อุณหภูมิของร่างกาย ด้วยสารละลายที่สมบูณ์ของQ10 วัตถุดิบคุณภาพสูง และกระบวนการการผลิตตามาตรฐานของการผลิตยาและ แนวทางของGMP จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ Bio-Quinone Q10 มีประสิทธิภาพในการดูดซึมที่ดี
แหล่งของ Q10
เราได้รับQ10 เป็นจำนวนเพียงเล็กน้อยจากอาหารบางชนิด ซึ่งแหล่งของQ10ที่สำคัญได้แก่:
- เครื่องในสัตว์
- เนื้อ
- ปลาเฮอริ่ง
- น้ำมันถั่วเหลือง
- ปลาซาร์ดีน
นอกจากนี้ร่างกายยังสามารถสร้างQ10ขึ้นได้เองภายในเซลล์ แต่การสร้างจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้นและจากการมีโรคต่างๆ จากการศึกษาของผู้เชียวชาญพบว่าร่างกายสามารถสร้างQ10ได้สูงสุดที่อายุ 20-25 ปี หลังจากนั้นจะลดลงเรื่อยๆ
จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ว่าเราได้รับQ10จากอาหารในปริมาณเท่าไหร่แต่โดยประมาณจะอยู่ที่ประมาณ 5-10 มิลลิกรัมต่อวัน ร่างกายมีปริมาณ Q10เก็บสำรอง ประมาณ 1 - 1.5 กรัม โดยอวัยวะที่มีความเข้มข้นสูงสุดคือ หัวใจ ตับ และไต
ความแตกต่างของผลิตภัณฑ์Q10
Pharma Nord ใช้เวลากว่า 20 ปีในการเก็บบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถในการดูดซึมประสิทธิผล และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ Bio-Quinone Q10 แต่มีผลิตภัณฑ์ Q10 จำนวนมากที่วางจำหน่ายในปัจจุบันโดยไม่มีเอกสารหลักฐานใดๆรับประกันถึงผลที่ผู้บริโภคจะได้รับ ในช่วงที่มีการกล่าวอ้างถึงกันอย่างมากมายทำให้เป็นที่น่าศึกษาว่าQ10ชนิดไหนที่ดีที่สุด ทีมนักวิจัยของสหรัฐฯได้ตรวจสอบและถอดถอนการกล่าวอ้างที่เป็นเท็จ สิ่งที่ยังคงอยู่คือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลและการใช้ Q10
Q10ที่ไม่ผ่านกรรมวิธีดูดซึมได้น้อย
การดูดซึมที่สูงที่สุดเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาBio-Quinone Q10 ซึ่งมีหลักฐานเป็นเอกสารการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ กว่า 40บับ
ความท้าทายที่มากที่สุดในการทำอาหารเสริมQ10คือโดยธรรมชาติของสารตัวนี้มีความสามรถในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้น้อย โมเลกุลของQ10มีขนาดใหญ่จึงทำให้มีการดูดซึมที่ต่ำ และละลายได้ในน้ำมัน
เข้าสู่กระแสเลือดอย่างช้าๆ
Q10 ถูกดูดซึมเข้าสู่ผนังลำไส้เล็กพร้อมกับไขมันและถูกขนส่งโดยผ่านทางท่อน้ำเหลืองไปยังหลอดเลือดดำ subclavian vein รวมกับเลือดดำ การขนส่งแบบช้านี้ส่งผลให้มีปริมาณ Q10 สูงสุดในเลือดที่ 6-8 ชั่วโมงหลังจากการรับประทาน ดังนั้นจึงควรรับประทานQ10 พร้อมกับอาหารเช้าหรืออาหารกลางวัน
ถ้าคุณต้องรับประทานมากกว่า 1 แคปซูลต่อวัน เพื่อประสิทธิผลสูงสุดควรแบ่งรับประทาน เช่น หนึ่งแคปซูลพร้อมอาหารเช้าและหนึ่งแคปซูลพร้อมอาหารกลางวัน – แทนที่จะรับปริมาณหลายเม็ดในครั้งเดียว
รูปผลึกดูดซึมไม่ได้
ใน1แคปซูลของBio-Quinone Q10 ประกอบด้วยสารละลายในระบบเมทริกซ์ในน้ำมันสูตรพิเศษซึ่งละลายQ10ให้อยู่ในรูปโมเลกุลเดี่ยวๆ จุดเริ่มแรกของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดคือวัตถุดิบ Q10 อยู่ในรูปแบบของผลึกขนาดใหญ่ซึ่งจะไม่สามารถถูกดูดซึมโดยร่างกาย จะต้องนำQ10 มาละลายให้เป็นโมเลกุลเดี่ยวๆ ก่อนที่จะสามารถดูดซึมได้ ผลิตภัณฑ์Q10ในรูปแบบเม็ดหรือแคปซูลชนิดแข็งซึ่งประกอบด้วยQ10ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการมีผลึกขนาดใหญ่จึงทำให้ดูดซึมได้น้อยกว่า 1% ผลึกของQ10ละลายได้โดยการใช้ส่วนผสมน้ำมันแบบพิเศษและการให้ความร้อนซึ่งจะสลายตัวเป็น Q10โมเลกุลเดี่ยวซึ่งจะช่วยให้ดูดซึมไปพร้อมกับน้ำมันได้อย่างดีและรวดเร็ว
Q10ละลายในน้ำมันเสมอ
กลยุทธ์ทางการตลาดได้กล่าวอ้างว่าเป็นการดีที่จะทำให้Q10ละลายน้ำได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนโมเลกุลของQ10 หรือการบรรจุQ10ที่ละลายในน้ำมันลงไปในไลโปโซม (อนุภาคทรงกลมเล็ก ๆ ที่มีเยื่อหุ้มเป็นไขมันชั้นด้านนอกและเยื่อหุ้มที่เข้ากับน้ำด้านใน) หรือการเชื่อมต่อ Q10 กับ ไมเซลล์ micelles (อนุภาคทรงกลมขนาดเล็กที่มีแกนเป็นไขมันและผิวด้านนอกเข้ากันได้กับน้ำ) หรือติดQ10ไว้กับอนุภาคนาโน เพื่อที่จะทำให้โมเลกุลของ Q10 สามารถละลายน้ำได้มากขึ้น
ถ้าคุณได้ใช้วิธีการเหล่านี้ สุดท้ายจะจบลงด้วยโมเลกุลขนาดใหญ่ของ Q10 ที่มีขนาดใหญ่ แต่ไม่ช่วยให้มีการดูดซึมที่เพิ่มขึ้นและโมเลกุลของ Q10 จะยังคงละลายในไขมันได้ดี ถ้าคุณเลือกที่จะไปทางตรงกันข้ามและทำให้โมเลกุลเล็กลงจะทำให้โมเลกุลละลายน้ำได้มากขึ้นและดูดซึมได้มากขึ้น แต่การทำให้โมเลกุลที่ลดลงจนเปลี่ยนไปจะไม่เป็น Q10อีกต่อไป แต่จะเปลี่ยนไปเป็น Q9 หรือ Q8 ซึ่งไม่มีคุณประโยชน์ต่อมนุษย์
ยูบิควิโนนมีหลักฐานการศึกษามากที่สุด
Q10พบได้ในสองรูปแบบคือ รูปแบบออกซิไดซ์ เรียกว่า ยูบิควิโนน(ubiquinone) กับ รูปแบบรีดิวซ์ เรียกว่า ยูบิควินอล(ubiquinol) โดยที่ ยูบิควินอล ถูกนำมาทำตลาดโดยใช้คำว่า active Q10 ถึงแม้ว่า ยูบิควินอลไม่ได้ออกฤทธิ์ดีไปกว่ายูบิควิโนน และรูปแบบที่ผลิตขึ้นภายในเซลล์คือรูปแบบออกซิไดซ์ หรือ ยูบิควิโนน Q10ที่ได้รับอาหารจะอยู่ในรูปแบบออกซิไดซ์ หรือ ยูบิควิโนนเป็นส่วนใหญ่แต่เมื่อถูกดูดซึมผ่านลำไส้ก็จะถูกเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบรีดิวซ์ หรือ ยูบิควินอลโดยอัตโนมัติ
ในเลือดและระบบน้ำเหลือง 90-95%ของQ10 จะอยู่ในรูปแบบ ยูบิควินอล
ภายในไมโตคอนเดรียที่ผลิตพลังงานในเซลล์Q10จะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ทั้งสองรูปแบบและสำคัญต่อการทำงานในร่างกาย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องไม่สำคัญนักว่าคุณจะรับประทานQ10ในรูปแบบไหนเพราะสุดท้ายร่างกายจะเปลี่ยนจากรูปแบบออกซิไดซ์ ยูบิควิโนน ไปเป็น รูปแบบรีดิวซ์ ยูบิควินอล อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันนี้ หลักฐานการศึกษาวิจัยทั้งในเรื่องของประสิทธิผลและความปลอดภัยเกือบทั้งหมดเป็นการใช้รูปแบบออกซิไดซ์ คือ ยูบิควิโนน
- ยูบิควิโนน=Q10 รูปแบบ ออกซิไดซ์
- ยูบิควินอล=Q10 รูปแบบ รีดิวซ์
การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์
ผลิตภัณฑ์ของ Pharma Nord ทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์อย่างละเอียด แผนกวิจัยของ Pharma Nord ทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ก้าวทันกับความรู้ล่าสุดเกี่ยวกับสุขภาพและโภชนาการ ซึ่งต้องอาศัยการติดตามอย่างรอบคอบเกี่ยวกับความคืบหน้าของการวิจัยและนอกจากนี้ยังวางแผนและดำเนินการทำการศึกษาทดสอบผลิตภัณฑ์ Pharma Nord โดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้าน Q10 ชั้นนำของโลก
Q10ของPharma Nordใช้ในการศึกษาวิจัย Q-Symbio
การศึกษาวิจัยล่าสุดที่ใช้Q10ของ Pharma Nord คือการศึกษาที่มีชื่อว่า Q-Symbio โดยศาสตราจาร์ Sven Aage MortensenจากโรงพยาบาลRigshospitalet ในกรุงโกเปนเฮเกนประเทศเดนมาร์ก และคณะ ได้ทำการนำเสนอผลงานการศึกษา Q-Symbioครั้งแรกที่งานประชุมแพทย์โรคหัวใจในกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส จัดขึ้นเมื่อ วันที่ 23-28 เดือนพฤศภาคม ปี ค.ศ.2013
การศึกษานี้มีผู้ป่วยเข้าร่วมการศึกษาจำนวน420คนจาก9ประเทศ ที่มีระดับQ10ในร่างกายต่ำ
ในกลุ่มที่ทำการรักษาให้รับประทานQ10ในรูปแคปซูลชนิดนิ่มขนาด 100 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวัน เป็นระยะเวลา2ปี การศึกษาครั้งนี้เพื่อหาคำตอบว่าผู้ที่ได้รับQ10จะมีผลดีอย่างไร เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับ
และเมื่อปีที่แล้วเราได้เห็นผลการศึกษาวิจัยอีกฉบับหนึ่งที่ทำในผู้สูงอายุสุขภาพดี คือการศึกษาที่มีชื่อว่า KiSel-10 โดยศาสตราจารย์ นายแพทย์ Urban Alehagen และคณะ ซึ่งก็ได้ใช้ Q10ของ Pharma Nordเช่นเดียวกัน ร่วมกับ ผลิตภัณฑ์ซีลีเนียม SelenoPrecise ซึ่งผลการศึกษาออกมาในลักษณะที่คล้ายกัน
ทำไมต้องQ10จาก Pharma Nord?
นักวิจัยชอบใช้ Q10ของ Pharma Nord เนื่องจากมีเอกสารหลักฐานจากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 90 ชิ้นรวมทั้งเอกสารการศึกษาเกี่ยวกับผลการดูดซึมที่สูงและเรื่องความปลอดภัย นอกจากนี้ยังผลิตภายใต้มาตรฐานการผลิตยาของประเทศเดนมาร์กและเป็นผลิตภัณฑ์อ้างอิงอย่างเป็นทางการของสมาคมโคเอ็นไซม์Q10นานาชาติ หรือ ICQA (International Coenzyme Q10 Association)
Q10ของPharma Nord ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นยา ด้วย
1 - Q10 จัดอยู่ในกลุ่มสารโด๊ปด้วยหรือไม่ |
เนื่องจากร่างกายสามารถผลิต Q10 ได้เองและเนื่องจากมี Q10 อยู่ในอาหารที่รับประทานทั่วไป ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดว่าQ10เป็นสารโด๊ป Q10 ทำหน้าที่เป็นโคเอ็นไซม์ (ตัวช่วยการทำงานของเอ็นไซม์) ในเซลล์ และยังอยู่ใน mitochondriaของเซลล์กล้ามเนื้อเพื่อผลิตพลังงาน เราสามารถสร้าง Q10 ได้บ้างในตับและนอกจากนี้เราได้รับQ10อีกเล็กน้อย จากอาหาร นักกีฬาหลายคนรับประทานเสริมQ10เพื่อชดเชยกับระดับของ Q10 ที่ลดลง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Q10 ไม่ได้จัดอยู่ในพวกสารโด๊ป |
2 - Q10 รูปแบบไหนดูดซึมได้ดีที่สุด |
จนถึงปัจจุบันมีการตีพิมพ์เผยแพร่ผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 40 ฉบับแสดงให้เห็นว่าเมื่อผ่านการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายแล้ว Q10ในรูปแบบยูบิควิโนน มีความสามารถในการดูดซึมในไปใช้งานได้สูงและมีประสิทธิผลที่ดี อย่างไรก็ตามยังมีหลักฐานการศึกษาตีพิมพ์เกี่ยวกับความสามารถในการดูดซึมไปใช้ประโยชน์และประสิทธิผลของ QH หรือ ยูบิควินอล |
3 - ทำไมฉันรับประทานQ10แล้วยังไม่รู้สึกว่าเห็นผล |
ส่วนใหญ่ผู้ที่รับประทานQ10มักจะเห็นผลไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม
|
4 - ฉันจะได้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์Q10ให้มากที่สุดได้อย่างไร? |
เนื่องจากQ10เป็นสารที่ละลายในน้ำมัน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรรับประทานร่วมกับอาหารที่มีไขมันบ้าง หลังจากการรับประทานระดับของQ10ในเลือดจะมีระดับสูงสูดที่6ชั่วโมง จึงควรรับประทานในมื้อเช้าหรือเที่ยง และถ้าคุณรับประทานอาหารเสริมน้ำมันปลาอยู่แล้ว การทานน้ำมันปลาร่วมกับQ10ก็จะเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์ หากคุณรับประทานQ10มากกว่า 1 แคปซูลต่อวัน การแบ่งมื้อรับประทานจะทำให้ร่างกายดูดซึมนำไปใช้ได้มากขึ้น เช่น รับประทาน 1แคปซูลในมื้อเช้า และ อีกแคปซูลในมื้อเที่ยง จะดีกว่าการรับประทานแบบ2เม็ดในครั้งเดียว ผลของการรับประทานQ10ในแต่ละวันจะใช้เวลาซักระยะหนึ่ง |
5 - ฉันจะให้ร่างกายสร้างQ10ให้ได้สูงสุดได้อย่างไร? |
เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ที่จะเพิ่มการสร้างQ10ในร่างกายให้มากขึ้นโดยการออกกำลังกายและการรับประทานสารอาหารต่างๆให้เพียงพอ การสร้างQ10ของเซลล์เป็นกระบวนการทางชีวเคมีที่ซับซ้อน เพื่อที่ร่างกายจะสร้างQ10ได้ จำเป็นต้องได้รับสารอาหารดังต่อไปนี้ คือ วิตามินบีรวม, วิตามินซีและอี, ซีลีเนียม และ แมกนีเซียม และ แร่ธาตุอื่นๆ การที่สารใดสารหนึ่งไม่เพียงพอก็จะส่งผลกระทบต่อการสร้างQ10 |
6 - แหล่งของQ10ที่ดีที่สุดคืออะไร? |
อาหารที่เรารับประทานมีQ10อยู่ไม่มาก อยู่ที่ประมาณ 5-10 มิลลิกรัมต่อวัน คนโดยส่วนใหญ่จะได้รับอยู่ที่ประมาณ 5 มิลลิกรัม อาหารประเภทธัญพืชมีโคเอ็นไซม์Q9 ในขณะที่ถั่วเหลืองมี Q10 นอกจากนี้ยังมีQ10ใน วอลนัท อัลมอนด์ ผักและผลไม้ที่มีน้ำมันโดยเฉพาะผักขม อาหารประเภทปลาก็มีQ10โดยเฉพาะปลาซาร์ดีนซึ่งมีมากกว่าเนื้อวัวถึงสองเท่า ถึงกระนั้นก็ตามเราต้องรับประทานปลาซาร์ดีนถึง1ปอนด์ เนื้อวัว2ปอนด์ หรือ ถั่วลิสงถึง2.5ปอนด์เพื่อที่จะได้รับQ10ให้ได้ 30 มิลลิกรัม |
7 - มีผลข้างเคียงจากQ10หรือไม่? |
ในการศึกษาที่มีการทดลองใช้ Q10 สูงถึง 1500 มก.ต่อวัน ไม่ได้ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง มีเพียงไม่กี่รายที่มีอาการไม่พึงประสงค์ชนิดไม่รุนแรง เช่นอาการปวดศีรษะ, เวียนศีรษะ, คลื่นไส้, ท้องผูก, ท้องร่วงและอาหารไม่ย่อยซึ่งพบได้น้อยมาก ซึ่งอาการต่างๆเหล่านี้อาจเกิดขึ้นจากวัตถุดิบที่ผลิตแคปซูลหรือน้ำมันพืชและไม่ได้เป็นผลมามาจาก Q10เอง |
8 - ฉันจะรับประทานQ10ได้นานแค่ไหน? |
โดยทั่วไปถือว่าQ10เป็นสารที่มีความปลอดภัยสูงมาก การศึกษาระยะยาวมากกว่า 5 ปีรวมทั้งการศึกษาที่ใช้Q10ปริมาณสูงต่อวันแสดงให้เห็นว่าการรับประทานอาหารเสริม Q10 เป็นระยะเวลานานมีความปลอดภัย นอกจากนี้การรับประทานเสริม Q10 ไม่มีผลลดการสร้างQ10ของร่างกายเอง หลังจากหยุดรับประทานระดับ Q10ของร่างกายจะกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับตอนเริ่มรับประทาน สิ่งเหล่านี้เป็นการพิสูจน์เป็นหลักฐานว่าการรับประทานเสริม Q10 ไม่ส่งผลต่อความสามารถของร่างกายในการสร้างสารนี้ทุกอย่างบ่งชี้ว่าคุณสามารถรับประทานQ10ต่อไปได้ตลอดเวลา |
9 - Q10 ในรูปแบบ ออกซิไดซ์(ยูบิควิโนน) ต่างกับ Q10รูปแบบ รีดิวซ์ อย่างไร? |
Q10เป็นรีด็อกซ์โมเลกุลชนิดหนึ่ง รูปแบบที่รู้จักกันดีคือแบบออกซิไดซ์หรือ ยูบิควิโนน ซึ่งเป็นQ10แบบแรกที่วางจำหน่ายในรูปแบบอาหารเสริมในยุโรปตั้งแต่ปี ค.ศ.1990 จากข้อมูลทั่วโลก ยูบิควิโนน เป็นรูปแบบที่ได้รับการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และมีหลักฐานที่แสดงถึงประสิทธิภาพเพียงรูปแบบเดียว จนกระทั้งได้มีการวางจำหน่ายรูปแบบ ยูบิควินอล ยูบิควินอลเป็นรูปแบบรีดิวซ์ วางจำหน่ายในตลาดครั้งแรกในปี ค.ศ.2006 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ยูบิควินอล ถูกทำตลาดว่าเป็น active Q10 ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ออกฤทธิ์ดีไปกว่า รูปแบบ ยูบิควิโนน โดยภาพรวมทั้งหมด ยังมีหลักฐานการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ของยูบิควินอลไม่มากนัก หรือกล่าวได้อีกอย่างว่า หลักฐานการศึกษาเกี่ยวกับการป้องกันและรักษาภาวะการขาดQ10เป็นการใช้ยูบิควิโนนมาทำการศึกษา ซึ่งรวมถึงการศึกษาที่ใช้ Bio-Quinone ด้วย |
10 - ยาลดคอเลสเตอรอล ทำให้ระดับของQ10ในร่างกายลดลงด้วยหรือไม่? |
ใช่, คุณสามารถอ่านเกี่ยวกับกลไกในตำราชีวเคมีของมนุษย์ได้ นอกจากนี้ยังมีหลักฐานมากมายจากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับผลที่ตามมาของผลกระทบนี้ ประเภทของยาที่น่าสงสัยนี้คือกลุ่มที่เรียกว่า สแตติน (statins) ซึ่งเป็นยาลดระดับคอเลสเตอรอลที่ทำหน้าที่ยับยั้งเอนไซม์ HMG-CoA reductase ซึ่งจะช่วยลดการผลิตสาร mevalonate ในร่างกาย จากสารตั้งต้น mevalonateนี้ ทำให้เกิดการสร้างสารหลายชนิดเกิดขึ้นในตับ ได้แก่ คอเลสเตอรอลและ Q10 คุณไม่สามารถลดการผลิตคอเลสเตอรอลของร่างกายได้โดยไม่ลดการการสร้างQ10ของร่างกายจากกลไกเช่นนี้ |
11 - เราต้องการ Q10 ปริมาณเท่าไหร่? |
ความต้องการQ10 แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ในผู้ที่มีอายุน้อยหรือวัยรุ่นยังไม่จำเป็นต้องรับประทานเสริม Q10 ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีควรรับประทานในขนาด 30 - 100 มิลลิกรัม ต่อวัน ผู้สูงอายุอาจรับประทาน 100 มิลลิกรัม ต่อวัน คนในที่เป็นโรคและกำลังทำการรักษารักษาอาจจะรับประทานได้ถึง 300 มิลลิกรัม ต่อวัน หรือมากกว่านั้นในผู้ป่วยบางราย |
12 - ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ ที่Q10ถึงจะให้ผล? |
นับตั้งแต่ช่วงที่คุณกลืนกินแคปซูลQ10ลงไป ซึ่งจะดูดซึมได้ดีเมื่อรับประทานร่วมกับอาหารที่มีไขมันบางส่วน และจะใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมงที่Q10 จะออกจากเลือดเพื่อเข้าสู่น้ำเหลือง นอกจากนี้ยังต้องถึงค่าความเข้มข้นขั้นต่ำระดับหนึ่งสำหรับระดับของQ10ในเลือดเพื่อที่จะดูดซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อได้ เนื่องจากยังไม่ได้มีการกำหนดค่าความเข้มข้นขั้นต่ำของQ10ในเลือดไว้อย่างแน่ชัด แต่นักวิจัยเชื่อว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2 – 2.5 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ดังนั้น ในทางปฏิบัติหมายความว่าควรเริ่มต้นรับประทานด้วยขนาดที่สูงขึ้นเล็กน้อยและสามารถลดปริมาณลงได้เมื่อรับประทานไประยะหนึ่งถ้าจำเป็น ควรรับประทานQ10 ต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือน แต่การดูดซึมเข้าไปในเนื้อเยื่อสูงสุดจะใช้เวลาอย่างน้อยหกเดือน |
13 - แหล่งที่มาของQ10ของ Pharma Nord คืออะไร? |
เราได้ตรวจสอบและคัดเลือกวัตถุดิบ Q10 ที่มีคุณภาพสำหรับผลิตภัณฑ์ Q10 ทั้งหลายของเรา ผู้จำหน่ายวัตถุดิบที่เราเลือกทั้งหมดจะต้องได้มาตรฐานและมีความความปลอดภัยสูงสุด เพื่อใช้ในการผลิตยา Q10 ของเรา ดังนั้นเราจึงมีผู้ผลิตวัตถุดิบหลายราย เพราะในบางกรณีมีบางรายไม่ผ่านเกณฑ์ของเรา Q10 ของ Pharma Nord มาจากหลายแหล่ง หนึ่งในนั้นคือสกัดได้จากเซลล์ยีสต์ที่มีคุณลักษณะเฉพาะ แต่วัตถุดิบนั้นไม่มีส่วนประกอบส่วนใดของยีสต์เลย นอกจากนี้ยังผลิตได้โดยแบคทีเรียชนิดพิเศษ โดยปกติแล้ว Q10 ของ Pharma Nord คือ Q10 ที่สกัดแยกออกมาจนบริสุทธิ์ซึ่งจะเหมือนกับที่ร่างกายสร้างได้เองทุกประการ |
14 - ฉันมีความเสี่ยงติดเชื้อโรควัวบ้าจากแคปซูลเจลาตินชนิดนิ่มหรือไม่? |
คำตอบคือ ไม่. แคปซูลเจลาตินของ Pharma Nordเป็นเกรดสำหรับการผลิตยา ที่ผลิตจากหนังวัว ไม่ได้นำมาจากส่วนที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่นส่วนของ สมอง กระดูกสันหลัง นอกจากนี้เราไม่ใช้สัตว์จากประเทศที่มีความเสี่ยง เราใช้เฉพาะหนังจากปศุสัตว์ที่ได้รับการรับรองให้มนุษย์รับประทานได้เท่านั้น |
15 - ทำไมต้องแต่งสีเม็ดแคปซูลด้วยไอรอน ออกไซด์? |
เราเคลือบสีแคปซูล Q10ด้วยไอรอน ออกไซด์ เพื่อปกป้องสารสำคัญจากการสลายตัวโดยแสง ไอรอนออกไซด์ที่ใช้เป็นสารเคมีบริสุทธิ์และไม่ละลายในน้ำ ปริมาณของธาตุเหล็กมีน้อยมากและมีเพียงจำนวนเล็กน้อยที่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย แคปซูล Q10นี้สามารถรับประทานได้โดยบุคคลที่จะเสริมธาตุเหล็ก |
16 - มีประเด็นเกี่ยวกับสุขภาพจากการใช้สารแต่งสี แอมโมเนีย คาราเมลที่ใช้ในแคปซูลQ10หรือไม่? |
ไม่มี, นอกจากคุณจะแพ้สารตัวนี้เท่านั้น |
17 - มีเอสโตรเจนในแคปซูลQ10ที่มีน้ำมันถัวเหลืองหรือไม่? |
น้ำมันถั่วเหลืองในแคปซูล Q10ของเราได้รับการวิเคราะห์หาปริมาณเอสโตรเจนแล้ว |
18 - ฉันสามารถหลีกเลี่ยงการรับประทานเจลาตินในแคปซูลQ10ได้อย่างไร? |
แคปซูลเจลลาตินช่วยปกป้องสารต่างๆได้ดีตลอดอายุการใช้งาน แต่คุณสามารถตัดแคปซูลเป็นรูเล็ก ๆ ด้วยกรรไกรและบีบเอาเนื้อของสารในแคปซูลออกมาใส่ในช้อนหรือบีบลงในปากของคุณโดยตรง อย่างไรก็ตามจะมีส่วนของQ10บางส่วนยังคงเหลืออยู่ด้านในของแคปซูลหากใช้วิธีนี้ |
19 - เจลาตินที่ใช้ทำแคปซูลQ10ได้รับการรับรอง ฮาลาล หรือไม่? |
ใช่, Pharma Nord ใช้เจลาตินจากวัวสำหรับผลิตภัณฑ์ Q10 จากผู้จัดจำหน่ายที่ได้รับการรับรอง |
20 - เหตุผลอะไรที่ใช้น้ำมันปาล์มในผลิตภัณฑ์Q10ของคุณ? |
เราไม่ได้ใช้น้ำมันปาล์มในผลิตภัณฑ์ Q10 ทั้งหมดของเรา ผลิตภัณฑ์ Q10 ส่วนใหญ่ของเรามีน้ำมันถั่วเหลือง บางผลิตภัณฑ์มีน้ำมันมะพร้าว เราไม่สามารถใช้น้ำมันอื่นได้ คุณสมบัติทั่วไปสำหรับน้ำมันที่เราใช้คือจะต้องสามารถละลายส่วนผสมQ10 ได้อย่างสมบูรณ์ที่อุณหภูมิของร่างกาย Ref: The United Nations University Press, Food and Nutrition Bulletin, vol. 15 (1993/1994), Number 2, june 1994 |
21 - วิธีที่ดีที่สุดในการเก็บรักษาแคปซูล Q10คือวิธีใด? |
Q10 ของ Pharma Nord ผลิตมาเพื่อให้สามารถเก็บรักษาได้ด้วยบรรจุภัณฑ์ที่ใช้บรรจุที่อุณหภูมิห้อง เราได้ทดสอบผลิตภัณฑ์ของเราในตู้ทำความร้อน เพื่อให้รู้ว่ามันสามารถทนอยู่ได้จนถึงวันหมดอายุ หลังจากนั้นมันจะยังคงใช้งานได้อยู่เป็นระยะเวลาหนึ่ง หากได้รับการจัดเก็บอย่างถูกต้อง แต่หลังจากวันที่หมดอายุ การรับประกันในด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์จะยุติลง ดังนั้นเราแนะนำไม่ให้ใช้ผลิตภัณฑ์หลังจากที่หมดอายุแล้ว เม็ดแคปซูลสามารถทนต่ออุณหภูมิที่สูงกว่าอุณหภูมิห้องได้ ซึ่งจะไม่เกิดความเสียหายต่อส่วนประกอบด้านในแม้ว่าแคปซูลจะอ่อนตัว อย่างไรก็ตามไม่ควรสัมผัสกับอุณหภูมิที่สูงเกิน30องศาเซลเซียส (86 ° F) เป็นระยะเวลานาน เก็บในตู้เย็นได้หรือไม่? เป็นกฎข้อหนึ่งว่า เราไม่แนะนำให้เก็บเม็ดแคปซูลไว้ในตู้เย็น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความชื้นที่สูงและเนื่องจากอุณหภูมิที่เย็นอาจทำให้ลดการดูดซึมของยาได้ ถ้าการเก็บในตู้เย็นเป็นตัวเลือกเดียวที่คุณสามารถควบคุมอุณหภูมิได้ ก็สามารถเก็บในตู้เย็นได้แต่ควรเก็บไว้ในภาชนะที่ปิดแน่นไม่ให้อากาศเข้าไปได้ ไม่ควรใช้แคปซูลทันทีที่ออกจากตู้เย็น แต่ให้รอให้อุ่นขึ้นเล็กน้อยก่อน แล้วจึงนำมารับประทานได้ โดยไม่มีปัญหา |
Bio-Glucosamine ใน 1 เม็ด ประกอบด้วย กลูโคซามีน ซัลเฟต 400 มิลลิกรัม เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการข้อเสื่อมที่รุนแรงในระดับน้อย-ปานกลาง
Bio-Quinone Q10 30 mg เป็นคิวเท็น ธรรมชาติ ให้ปริมาณสัดส่วนของสารที่ถูกดูดซึม (Bioavailability) สูง และมีข้อมูลความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือ คิวเท็นจะช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่เซลล์ร่างกาย
Bio-Magnesium อยู่ในรูปแบบแมกนีเซียมที่ละลายได้อย่างรวดเร็วและดูดซึมได้ง่าย ในแต่ละเม็ดจะให้ปริมาณแมกนีเซียม 200 มิลลิกรัม
สินค้าที่ได้รับความนิยม
Bio-E-Vitamin ประกอบด้วยวิตามินอี (d-alfa) ที่ละลายได้ในไขมัน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอันทรงพลัง