ซีลีเนียม (Selenium) คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซิลิเนียมยีส ออแกนิคที่สกัดจากธรรมชาติ

SelenoPrecise (ซีลีเนียมยีสต์)เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซีลีเนียมเม็ดกลมสีขาวขนาดแล็ก แต่ละเม็ดมีซีลีเนียม 50 ไมโครกรัมเป็นซีลีเนียมจากยีสต์ของ Pharma Nord ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้ว นอกเหนือจาก selenomethionine แล้ว SelenoPrecise ยังประกอบด้วยสารประกอบซีลีเนียมอินทรีย์(organic)อื่น ๆ อีกมากกว่า 20 ชนิด SelenoPrecise มีความโดดเด่นด้วยเอกสารหลักฐานที่ได้รับการบันข้อมูลว่ามีประสิทธิภาพในการดูดซึมที่ดีและมีความคงที่ของคุณภาพ ดังนี้

• ห้องปฏิบัติการ15แห่ง จาก 12 ประเทศได้ทดสอบ SelenoPrecise พบว่ามีปริมาณของ L-methionine selenium ในปริมาณสูงและมีความคงตัว
• ปริมาณซีลีเนียมที่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายสูงถึง 89%

ทำไมจึงมีสารประกอบซีลีเนียมแตกต่างกันหลายชนิด?

SelenoPrecise มีสารประกอบซีลีเนียมหลายชนิดเนื่องจากซีลีเนียมแต่ละชนิดมีหน้าที่แตกต่างกันในร่างกายมนุษย์ ด้วยสารประกอบซีลีเนียมที่มีอยู่หลากหลายชนิดจึงเทียบเคียงได้กับซีลีเนียมที่พบได้ในอาหารที่อุดมด้วยซีลีเนียม นักวิทยาศาสตร์จึงเชื่อว่ามีผลดีต่อสุขภาพของเราสูงสุด

Selenium คือแร่ธาตุจำเป็นชนิดหนึ่งเพราะเป็นส่วนประกอบสำคัญของ ซีลีโนโปรตีนหายชนิด และ เอนไซม์ที่ต้องอาศัยซีลีเนียมช่วยในการทำงาน จึงมีความสำคัญต่อสุขภาพของมนุษย์ หนึ่งในเอนไซม์ที่สำคัญได้แก่ กลูต้าไธโอน เปอร์ออกซิเดส(GSH-Px) ซึ่งทำหน้าที่ๆสำคัญในร่างกาย นอกจากนี้บาทบาทของซีลีเนียม คือ ช่วยในการทำงานของไทรอยด์ จึงช่วยในการควบคุมสมดุลของระบบเผาผลาญของร่างกาย บทบาทอื่นๆของซีลีเนียมในร่างกาย ได้แก่:

• ส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้เป็นไปตามปกติ
• การผลิตเซลล์สเปิร์ม
• การปกป้องเซลล์
• บำรุงสุขภาพของ ผม และ เล็บ

 

ซีลีเนียมที่พบส่วนใหญ่ในร่างกาย มี 2 รูปแบบ คือ
ซีลีเนียมในรูปแบบซีลีโนเมไธโอนีน(ที่จับรวมตัวอยู่ในโปรตีนต่างๆแทนที่ methionine) และซีลีเนียมในรูปแบบ ซีลีโนซิสเทอีน

เราได้รับซีลีโนเมไธโอนีน จากอาหารเท่านั้นเนื่องจากร่างกายไม่สามารถสร้างได้ อย่างไรก็ตามซีลีโนเมไธโอนีน สามารถเปลี่ยนเป็นรูปแบบเป็นซีลีโนซิสเทอีน ได้ และ ซีลีโนซิสเทอีนก็สามารถรับได้จากอาหารได้เช่นกัน โดยในอาหารจะอยู่ในรูปของ ซีลีเนียม-เมธิลซีลีโนซิสเทอีน

ในสภาวะที่ร่างกายได้รับซีลีเนียมจากอาหารน้อยเกินไป ร่างกายสามารถที่จะใช้ซีลีเนียมที่เก็บสะสมอยู่ โดยการเปลี่ยนรูป ซีลีโนเมโธโอนีนที่เกาะอยู่กับโปรตีนในรูปแบบต่างๆ

SelenoPrecise ประกอบด้วย ซีลีเนียมทั้ง2 รูปแบบหลักๆนี้ (ซีลีโนเมไธโอนีน และ ซีลีโนซิสเทอีน) และยังมีซีลีเนียมในรูปแบบอื่นๆอีกด้วย

ซีลีเนียมสามารถจับโลหะหนัก
ซีลีเนียมสามารถจับกับโลหะหนักในร่างกายได้หลายชนิด ได้เป็นสารประกอบที่ไม่ละลายน้ำ และกำจัดออกจากร่างกาย ในกระบวนการนี้จำเป็นต้องใช้ซีลีเนียมในร่างกาย อาจทำให้ ซีลีเนียมที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้ในกระบวนการต่างๆลดน้อยลง จากการศึกษาพบว่า ซีลีเนียมสามารถจับกับปรอท ในสัดส่วน 1:1

* Schrauzer GN Selenium and selenium-antagonistic elements in nutritional cancer prevention. Crit Rev Biotechnol. 2009;29(1):10-7.

เราจะได้รับซีลีเนียมจากอาหารอะไรบ้าง?
ซีซีลีเนียมมีอยู่ในอาหารต่างๆเช่นปลา ถั่ว เมล็ดธัญพืช คนที่ไม่กินอาหารเหล่านี้อย่างสม่ำเสมออาจได้รับประโยชน์จากการรับประทานซีลีเนียมเสริมเพื่อให้ได้รับสารอาหารนี้เพียงพอ ปริมาณซีลีเนียมที่แนะนำให้รับประทานในแต่ละวันคือประมาณ 50-70 ไมโครกรัม (แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ) ในผู้ชายต้องการซีลีเนียมมากกว่าผู้หญิงเล็กน้อย

ซีลีเนียมที่อยู่ในรูปสารประกอบอินทรีย์มีการดูดซึมที่สูงกว่า
ซีลีเนียมในดินที่ทำเกษตรเป็นแบบอนินทรีย์ (inorganic) เมื่อมันถูกดูดซึมโดยพืช (และสิ้นสุดไปอยู่ในสัตว์) จะได้รับการแปลงเป็นซีลีเนียมอินทรีย์(organic) ซีลีเนียมที่เราได้รับจากอาหารสามารถจับกับกรดอะมิโนเช่น methionine และ cysteine ในทางตรงกันข้ามซีลีเนียมในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอาจเป็นแบบอินทรีย์หรืออนินทรีย์ก็ได้ เป็นที่ทราบกันดีว่าสารประกอบซีลีเนียมอินทรีย์ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายกว่าและสามารถรวมตัวกับเอนไซม์ที่ต้องใช้ซีลีเนียมและ selenoproteins ชนิดต่างๆได้ดี

ปริมาณซีลีเนียมในดินที่ทำการเกษตรมีความแตกต่างกัน

ในประเทศที่มีที่ดินทำการเกษตรอุดมไปด้วยซีลีเนียมจะทำให้ประชากรได้รับซีลีเนียมที่สูงเช่นกัน ในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งมีปริมาณซีลีเนียมในดินสูง (โดยเฉพาะในภาคเหนือ) ปริมาณซีลีเนียมที่รับประทานเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60-220 ไมโครกรัมต่อวัน
ดังที่แสดงในภาพประกอบ ประชากรจำนวนมากในประเทศในยุโรปได้รับซีลีเนียมจากอาหารในปริมาณที่ต่ำ เมแต่สำหรับประเทศฟินแลนด์ได้รับในปริมาณไม่ต่ำเกินไปเนื่องจากมีการเติมซีลีเนียมลงไปในปุ๋ย

 ซีลีเนียมไม่ใช่แค่ซีลีเนียมเท่านั้น
ซีลีเนียมเป็นธาตุและแร่ธาตุที่พบในดินในปริมาณที่แตกต่างกัน ในประเทศต่างๆเช่นสหรัฐอเมริกาพื้นที่การเกษตรมีปริมาณซีลีเนียมค่อนข้างสูงในขณะที่ประเทศในแถบยุโรปส่วนใหญ่มีซีลีเนียมค่อนข้างต่ำ ธัญพืชและพืชอื่น ๆ ดูดซับซีลีเนียมจากดิน ดังนั้นปริมาณซีลีเนียมในอาหารส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับปริมาณซีลีเนียมที่พบในที่ดินที่ทำการเกษตร

ซีลีเนียมอินทรีย์และอนินทรีย์
สิ่งสำคัญที่ต้องระวังเมื่อเลือกอาหารเสริมซีลีเนียมคือ มีซีลีเนียมชนิดที่แตกต่างกัน

ซีลีเนียมอนินทรีย์  (Inorganic selenium)
ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซีลีเนียม ซีลีเนียมอนินทรีย์ที่ใช้จะเป็นรูปแบบเกลือของซีลีเนียม อาจเป็นโซเดียมซีลิไนท์ หรือ โซเดียมซิลิเนท  ซีลีเนียมมักไม่ละลายในน้ำ แต่ซีลีเนียม ในรูปของซีลิไนท์ และ โซเดียมซิลิเนท  สามารถละลายได้ในน้ำ มีเพียงครึ่งหนึ่งของเกลือซีลีเนียมอนินทรีย์ทั้งสองชนิดนี้ที่จะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย  โดยที่ซีลิไนท์ จะดีกว่า โซเดียมซิลิเนท เล็กน้อย อย่างไรก็ตามซีลีเนียมอนินทรีย์ทั้งสองชนิดนี้ถูกขับออกจากร่างกายได้อย่างรวดเร็วซึ่งจะจำกัดประสิทธิภาพของมัน

ซีลีเนียมอินทรีย์(Organic selenium)

พืชดูดซับซีลีเนียมอนินทรีย์จากดินในรูปของซีลีเนท เมื่อซีลีเนียมเข้าไปอยู่ในพืชจะเข้ารวมตัวเป็นselenomethionine และ selenocysteineในปริมาณเล็กน้อยกลายเป็น ซีลีเนียมอินทรีย์ สารประกอบเซเลเนียมอินทรีย์ L-selenomethionine – เช่นซีลีเนียมที่จับกับกรดอะมิโน methionine – สามารถสังเคราะห์ขึ้นในห้องปฏิบัติการได้ด้วย  L-selenomethionine สังเคราะห์ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในฐานะอาหารเสริมของเซลล์ และเป็นหนึ่งในสารประกอบซีลีเนียมที่มีการศึกษามากที่สุด
จากอาหารสัตว์เราได้รับซีลีเนียมในรูปของ selenocysteine เป็นหลัก

ซีลีเนียมยีสต์
ซีลีเนียมยีสต์มาจากเซลล์ยีสต์ที่ถูกเพาะเลี้ยงในสารอาหารที่มีธาตุซีลีเนียม จึงให้ปริมาณของ L-selenomethionine ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในปริมาณสูง  ยีสต์ยังประกอบด้วย methylselenocysteine และสารประกอบซีลีเนียมอินทรีย์อื่น ๆ ที่คล้ายกับ ซีลีเนียมที่พบได้จากอาหารในธรรมชาติซึ่งมีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ว่ามีความสำคัญ หลังจากนั้นยีสต์จะถูกทำลายโดยความร้อนและทำให้กลายเป็นผงเพื่อให้ได้ป็นโปรตีนที่อุดมด้วยซีลีเนียม

ซีลีเนียมยีสต์ก็มีความแตกต่าง
มีความแตกต่างระหว่างคุณภาพของผลิตภัณฑ์ยีสต์จากแหล่งที่ต่างกัน ยีสต์ที่ไม่ได้รับการปรับมาตรฐานมักจะมีปริมาณและชนิดของสารประกอบซีลีเนียมต่างๆที่ไม่คงที นั่นหมายความว่าการดูดซึมของซีลีเนียมอาจแตกต่างกันมาก ผลิตภัณฑ์ยีสต์ที่มีคุณสมบัติที่ดีที่สุดและผลิตภายใต้มาตรฐานการผลิตเกรดยา จะมีความแตกต่างกันในประเภทและปริมาณของสารประกอบซีลีเนียมต่างๆเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

SelenoPrecise เป็นหนึ่งในผลิตภัณพ์ซีลีเนียมที่ได้รับการพิสูจน์มากที่สุดโดยที่มีเอกสารทางวิทยาศาสตร์ที่เก็บข้อมูลทางด้านความคงตัว ความปลอดภัยและการดูดซึม

มีผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 40ชิ้นที่ได้รับการตีพิมพ์ เกี่ยวกับคุณภาพ ความคงตัวที่สูงและความปลอดภัยของ SelenoPrecise นี่คือสิ่งที่ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้เป็นแหล่งซีลีเนียมที่ได้รับการเก็บข้อมูลหลักฐานเป็นอย่างดี จึงทำให้เป็นเหตุผลหลักที่ SelenoPrecise ถูกนำไปใช้ในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และโครงการวิจัยทั่วโลก

หลายคนรับประทานซีลีเนียมเสริมทุกวัน แต่อาจจะไม่ได้ตระหนักถึงความแตกต่างกันในด้านคุณภาพและความสามารถในการดูดซึมในอาหารเสริมเหล่านั้น

หากคุณไม่แน่ใจว่าคุณกำลังใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องหรือไม่คุณสามารถลองทดสอบซีลีเนียมที่คุณรับประทานอยู่ในปัจจุบันกับ SelenoPrecise ซึ่งเป็นซีลีเนียมที่มีหลักฐานข้อมูลรับรองเป็นอย่างดี

เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ซีลีเนียมที่คุณใช้อยู่กับ SelenoPrecise®

		SelenoPrecise		ผลิตภัณฑ์ ซีลีเนียม ที่ใช้อยู่
ประสบการณ์จากผู้ใช้จริงมานานกว่า 20 ปีในสหภาพยุโรป		ใช่		?
มีหลักฐานการศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพการดูดซึม		ใช่		?
มีข้อมูลการศึกษาด้านความปลอดภัย		ใช่		?
มีหลักฐานการศึกษาด้านประสิทธิผล		ใช่		?
ได้รับเลือกให้เป็นผลิตภัณฑ์อ้างอิงของซีลีเนียมจากยีสต์		ใช่		?
ผลิตในประเทศเดนมาร์กภายใต้ มาตรฐานGMP และควบคุมโดยหน่วยงานควบคุมการผลิตยาของประเทศเดนมาร์ก		ใช่		?
ประกอบด้วยซีลีเนียมอินทรีย์มากกว่า 20 ชนิดโดยมี L-selenomethionine เป็นหลัก		ใช่		?
เป็นซีลีเนียมแบบเดียวกับที่พบได้ในอาหารตามธรรมชาติ		ใช่		?
ผ่านการทดสอบและมีรายงานการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ 50 ฉบับ		ใช่		?
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร		ใช่		?
มีผู้รับประทานวันละหลายพันคนใน 40 ประเทศ		ใช่		?
มีความคงตัวและคุณภาพสม่ำเสมอในทุกรุ่นการผลิต		ใช่		?
ผ่านการรับประกันว่าผลิตเฉพาะที่โรงงานในเดนมาร์กภายใต้มาตรฐานการผลิตยาตามระเบียบข้อบังคับของหน่วยงานควบคุมประเทศเดนมาร์ก		ใช่		?

EFSA (The EU Food Safety Agency) ได้ทำการศึกษาจากหลักฐานทางวิชาการและให้การรับรอง ถึงบทบทบาทของซีลีเนียมดังต่อไปนี้
 

• มีส่วนช่วยในการสร้างเซลล์สเปิร์มให้เป็นไปอย่างปกติ
• มีบทบาทในสุขภาพผมและเล็บ
• ช่วยการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
• ช่วยการทำงานของระบบไทรอยด์
• ช่วยปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ