1เม็ด ประกอบด้วย | |||
---|---|---|---|
เส้นใยอาหารจากพืชผัก | 460 มิลลิกรัม |
ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ผลิตในประเทศเดนมาร์ก และผ่านการอนุมัติจาก อย. ไทย | |||
---|---|---|---|
ข้อมูลผลิตภัณฑ์
ขนาดรับประทาน
รับประทานวันละ 4-12 เม็ด หรือตามคำแนะนำของแพทย์
ไม่ควรรับประทานเกินปริมาณที่แนะนำต่อวัน
ควรกลืนผลิตภัณฑ์ ไบโอ-ไฟเบอร์ (Bio-Fiber)ทั้งเม็ดพร้อมกับดื่มน้ำตามมากๆ
ไม่ควรรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทดแทนอาหารหลัก
การดำเนินชีวิตที่เอื้อต่อสุขภาพ และรับประทานอาหารครบ5หมู่ เป็นส่วนสำคัญในการรักษาสุขภาพ
ส่วนประกอบ
ใยอาหารจาก หัวชูการ์บีท และ เลมอน Polyvinylpyrrolidone, microcrystalline cellulose, magnesium stearate, silicon dioxide, hypromellose.
เหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ
การเก็บรักษา
เก็บในที่แห้ง และพ้นแสง ที่อุณหภูมิห้อง
ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก
Bio-Fiber 80(ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไบโอ-ไฟเบอร์)
ผลิตภัณฑ์ เสริมอาหาร ไบโอ-ไฟเบอร์ 80 (Bio-Fiber) เป็นผลิตภัณฑ์เส้นใยอาหารจากธรรมชาติในรูปแบบเม็ด ปราศจากสารเติมแต่ง แต่ละเม็ดประกอบไปด้วยส่วนผสมจากเส้นใยอาหารจากพืชผัก 460 มิลลิกรัม ซึ่งเป็น ทั้งชนิดที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำจากผิวเลมอนและหัวชูการ์บีท เพื่อทดแทนอาหารที่มีเส้นใยอาหารต่ำที่เราบริโภคกันในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ ไบโอ-ไฟเบอร์ จะช่วยทำให้ระบบทางเดินอาหารดีขึ้นเนื่องจากจะช่วยให้ร่างกายกำจัดเอาของ เสียออกไปได้ง่ายในขณะเดียวกันยังช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้นด้วย
โภชนาการที่สมดุลควรมีเส้นใยทั้งชนิดละลายน้ำได้และที่ไม่ละลายน้ำ ไบโอ-ไฟเบอร์ประกอบด้วยเส้นใยอาหารทั้งสองชนิดในเม็ดเดียวกัน
เส้นใยอาหารคืออะไร?
เส้นใยอาหารสามารถพบได้ในอาหารทั่วไปซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง ที่ไม่สามารถย่อยสลายให้กลายเป็นแป้งและน้ำตาลได้ด้วยน้ำย่อยหรือเอ็นไซม์ในทางเดินอาหาร
เส้นใยอาหารที่ละลายน้ำได้
เส้นใยอาหารแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ เส้นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ และ เส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำโดยเส้นใยที่ละลายน้ำได้นี้เมื่อผสมกับของเหลว จะมีลักษณะคล้ายวุ้นและพองตัวได้ถึง 15 เท่าจึงช่วยเพิ่มมวลอาหารทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและช่วยชะลออาหารให้ เคลื่อนผ่านสู่ลำไส้เล็กช้าลง
เส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ
เส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำสามารถดูดซับน้ำได้บางส่วนแต่ไม่มาก เส้นใยชนิดนี้จะช่วยลดระยะเวลาที่อาหารค้างอยู่ในทางเดินอาหาร และเช่นเดียวกับ เส้นใยชนิดละลายน้ำที่ทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว นอกจากนี้ เส้นใยอาหารยังถูกแปรสภาพเปลี่ยนเป็นอาหารให้แก่เชื้อแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้
ข้อแตกต่างเส้นใยอาหารแต่ละชนิด
เซลลูโลส (Cellulose) จัดเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ เนื่องจากในร่างกาย เราไม่มีเอ็นไซม์ที่ช่วยย่อยเซลลูโลส เซลลูโลสเป็นส่วนประกอบในผนังเซลล์ของพืช และแหล่งเซลลูโลสที่ดีได้แก่ ผักและผลไม้ เซลลูโลสมีคุณสมบัติดูดซับของเหลวได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เฮมิเซลลูโลส (Hemicellulose) จัดเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ไม่สามารถย่อยได้เช่นเดียวกับเซลลูโลส โดย เฮมิเซลลูโลส (Hemicellulose) และเพคติน (pectin) จะรวมตัวประกอบกันเพื่อห่อหุ้ม ชั้นเซลลูโลส ในผนังเซลล์ของพืช
เพคติน (Pectin) จัดเป็นใยอาหารที่ไม่สามารถย่อยได้ พบในผนังเซลล์พืช ยกเว้นในพืชชนิดไม้เนื้อแข็ง ปกติ เพคติน ในผลไม้ดิบจะไม่ละลายน้ำ แต่จะสามารถละลายน้ำได้มากขึ้นจากฏิกิริยาที่เกิดจากเอ็นไซม์เมื่อกลายเป็นผลไม้สุก ผลิตภัณฑ์จาก เพคตินสามารถใช้ทำวุ้นได้
ลิกนิน (Lignin) ไม่จัดเป็นสารกลุ่มคาร์โบไฮเดรต แต่เป็นสารอีกจำพวกหนึ่ง ซึ่งประกอบอยู่ในผนังเซลล์ของพืชและมีปริมาณที่แตกต่างกันตามแต่ละชนิดของพืช ลิกนินเป็นตัวช่วยทำให้เนื้อเยื่อไม้แข็ง และร่างกายมนุษย์ไม่สามารถย่อยลิกนินได้
อาหาร ,เส้นใยอาหาร, และเชื้อแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้
อาหารที่บริโภคในปัจจุบันแตกต่างจากในอดีตเป็นอย่างมาก ในอดีตอาหารส่วนใหญ่จะเป็นพวกธัญพืชที่มีใยอาหารสูงจากผักและผลไม้ แต่ในปัจจุบันอาหารส่วนใหญ่ที่เป็นอาหารที่ผ่านการแปรรูปมากขึ้น ซึ่งมีปริมาณใยอาหารเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ปกติในลำไส้คนเรามีเชื้อแบคทีเรียอยู่หลากหลายประมาณ 160 ชนิด ในปริมาณมากถึง 1-2 กิโลกรัม เชื้อแบคทีเรียเหล่านี้จะช่วยย่อยสลายโปรตีนที่ย่อยยาก และคาร์โบไฮเดรตจาก อาหารที่เราบริโภค เชื้อแบคทีเรียเหล่านี้จะต้องพึ่งเส้นใยอาหารที่เราได้รับ ดังนั้นอาหารที่เรารับประทานทุกวันจึงมีความสำคัญต่อจำนวน และการกระจายความหลากหลายของสายพันธุ์ที่แตกต่างกันของแบคทีเรียเหล่านี้
นอกจากการแปรสภาพเส้นใยจากอาหารที่เรารับประทาน แบคทีเรียในลำไส้ยังเป็นตัวหลั่งสารสื่อประสาทต่างๆที่มีผลต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย ตัวควบคุมความอยากอาหาร และการทำงานระบบภูมิคุ้มกันโดยเซลล์ต่อมน้ำเหลือง (lymphoid cells)ที่อยู่ในเยื่อบุผนังลำไส้ (intestinal mucosa) อีกด้วย
วิธีการเพิ่มการรับประทานเส้นใยอาหาร
หากร่างกายไม่เคยชินกับการได้รับเส้นใยอาหารในขนาดสูง เมื่อมีการรับเส้นใยอาหารมากขึ้นอาจส่งผลให้เกิดก๊าซในลำไส้เพิ่มมากขึ้นซึ่งทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ตามมาได้ ดังนั้นเมื่อมีการเพิ่มปริมาณเส้นใยอาหารจากการรับประทานอาหารจึงควรค่อยๆเพิ่มปริมาณขึ้นที่ละเล็กน้อยอย่างช้าๆ เพื่อให้ระบบย่อยอาหารได้มีการปรับตัว และควรปฏิบัติแบบนี้เช่นเดียวกันเมื่อรับประทานเส้นใยอาหารในรูปแบบเม็ด เริ่มต้นด้วยการรับประทาน ไบโอ-ไฟเบอร์ วันละ4เม็ด และเพิ่มปริมาณการรับประทานสัปดาห์ละ2เม็ดจนถึงปริมาณที่ต้องการต่อวัน
สินค้าที่ได้รับความนิยม
Bio-Carnitin ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไบโอ-คาร์นิทีน อยู่ในรูปแคปซูลที่ทำจากพืช ประกอบด้วย แอล-คาร์นิทีนบริสุทธิ์ ขนาด 250 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นกรดอะมิโนจากธรรมชาติ
Bio-Vitamin-D3 วิตามินดี3 ในรูปแบบเม็ดไข่มุก ละลายในน้ำมันมะกอกสกัดเย็นเพื่อช่วยเพิ่มการดูดซึม เพื่อสุขภาพของกระดูกและฟัน
Bio-Selenium+Zinc ประกอบไปด้วยซีลีเนียมจากธรรมชาติ (SelenoPrecise) แร่สังกะสี วิตามินเอ วิตามินบี6 วิตามิน ซี และ วิตามินอี โดยแร่ธาตุซีลีเนียมและสังกะสีจะช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกายให้เป็นปกติ