พบความสัมพันธ์ของกรดไขมันโอเมก้า-3กับการมีสุขภาพดีในวัยสูงอายุ
จากผลการศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ BMJ พบความสำพันธ์ระหว่างการบริโภคกรดไขมันโอเมก้า-3 และการมีสุขภาพที่ดีในวัยสูงอายุ ในการศึกษานี้พบว่าระดับกรดไขมันโอเมก้า-3 ในเลือดมีความสัมพันธ์กับโอกาสที่จะมีสุขภาพที่ดีกว่าในกลุ่มผู้สูงวัย
เนื่องจากประชากรทั่วโลกมีอายุขัยที่เพิ่มขึ้นจึงมีการให้ความสำคัญกับการมีสุขภาพที่ดี่ในช่วงสูงวัย ดังนั้นงานวิจัยจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาว่ากรดไขมันจากอาหารทะเลและพืชจะช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีขึ้นได้หรือไม่
ทีมนักวิจัยจาก Friedman School of Nutrition Science and Policy ของ มหาวิทยาลัยทัฟส์ ในบอสตันได้รวบรวมข้อมูลจากผู้ใหญ่ 2,622 คนตั้งแต่ปีพ. ศ. 2535 ถึงปี พ.ศ. 2558 อายุเฉลี่ยของผู้เข้าร่วมการวิจัยในตอนเริ่มการศึกษาคือ 74 ปี โดย ร้อยละ 63 เป็นผู้หญิง
มีการวัดระดับกรดไขมันในเลือดที่จุดเริ่มต้นการศึกษา, 6ปี และ 13 ปีซึ่งกรดไขมันที่วัดประกอบด้วย กรดไอโคซาเพนตะอิโนอิก (EPA), กรดโดโคซาเฮกซะอิโนอิก (DHA), กรดโดโคซาเพนตะอิโนอิก(DPA) และ กรดแอลฟ่าไลโนเลนิก (ALA)
หลังจากพิจารณาปัจจัยทางสังคม เศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตอื่น ๆ แล้วนักวิจัยพบว่าผู้ที่มีระดับ EPA ในเลือดสูงที่สุดมีความเสี่ยงต่อการมีสุขภาพไม่ดีต่ำกว่าถึง 24% เมื่อเทียบกับผู้ที่มีระดับ EPA ต่ำสุด นอกจากนี้ระดับของ DPA ยังสัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงที่จะมีสุขภาพไม่ดี ได้18 ถึง 21%
นักวิจัยเชื่อว่าคำอธิบายที่เป็นไปได้สำหรับผลที่เกิดขึ้นนี้ก็คือกรดไขมันเหล่านี้ช่วยในการควบคุมความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจและการอักเสบ
นักวิจัยสรุปว่าจากผลการศึกษาครั้งนี้จะกระตุ้นให้เกิดการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกทางชีววิทยาที่น่าเชื่อถือและการศึกษาทดลองที่เกี่ยวข้องกับกรดไขมันในการบำรุงรักษาสุขภาพให้ดีขึ้นในช่วงวัยสูงอายุ และสนับสนุนแนวทางการบริโภคกรดไขมันให้เพิ่มขึ้นในผู้สูงอายุ การศึกษานี้มีระยะติดตามผลเป็นระยะเวลานาน (ถึง22 ปี) และมีผลที่ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องแม้จะทำการวิเคราะห์อีกหลายครั้ง
การศึกษาฉบับเต็ม; https://www.bmj.com/content/363/bmj.k4067
น้ำมันปลาจาก ฟาร์มา นอร์ด
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลาเข้มข้นที่ประกอบไปด้วยกรดไขมันอิสระ ที่ให้ค่าปริมาณสัดส่วนของสารที่ถูกดูดซึม (Bioavailability) สูง อีกทั้งประกอบไปด้วย EPA และ DHA พร้อมด้วย กรดโฟลิก และ วิตามินบี12
- มีปริมาณกรดไขมันอิสระที่ถูกดูดซึมได้ดีกว่าถึง 50%
- มีความเข้มข้นสูง (มีโอเมก้า3 สูงถึง 65%), เป็นน้ำมันปลาที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่าย
- ประกอบไปด้วยวิตามินบี 12 และ กรดโฟลิค ที่ช่วยในกระบวนการเผาผลาญโฮโมซีสเตอีน (homocysteine metabolism) อันเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งของโรคหลอดเลือดหัวใจ
- เป็นน้ำมันปลาบริสุทธิ์ ที่มีค่ามลพิษปนเปื้อนน้อยกว่าเกณฑ์กำหนดขั้นต่ำมาก
- รูปแบบแคปซูลเจลาตินชนิดนิ่มช่วยให้กลืนง่าย
- ผลิตภายใต้มาตรฐานควบคุมการผลิตยาประเทศเดนมาร์ก
- ได้รับการบันทึกและทดสอบตามหลักวิทยาศาสตร์